2519 ส่วนด้านการเมือง ดร.
วีรพงษ์" ว่ากันว่า ครั้งหนึ่ง "พล. เปรม" เคยกล่าวเตือน "พล. ชวลิต" นายกรัฐมนตรี ที่คัดค้านคำแนะนำในการลดค่าเงินบาทของ ดร. วีรพงษ์ ว่า "โกร่งมันอยู่กับเรามาตั้งแต่หนุ่มจนแต่งงานมีลูกแล้ว มันยังไม่เคยผิดเลย ฟังมันบ้าง" แต่ในที่สุดเมื่อ "พล. ชวลิต" ไม่เชื่อทั้งคำ "ดร. วีรพงษ์ และ พล. เปรม" ประเทศก็เดินทางไปสู่การประกาศลอยตัวค่าเงินบาทที่เป็นจุดเริ่มต้นของ "วิกฤตต้มยำกุ้ง" ที่ลามไปทั่วเอเชียในปี 2540 นั่นเอง ตำนานระหว่าง "ป๋าเปรม" กับ "ดร. โกร่ง" ยังมีว่า ดร. วีรพงษ์ เคยหันหลังให้กับตำแหน่งที่ปรึกษาป๋า เพื่อจะไปรับตำแหน่งรองประธานธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank - ADB) "ครั้งหนึ่งตำแหน่งรองประธานเอดีบีว่างลง แล้วก็เป็นโควตาของประเทศไทย เราก็อยากจะไปหาสตางค์ เพราะเงินเดือนมันสูง ก็ไปล็อบบี้ "ท่านสิทธิ เศวตศิลา" รัฐมนตรีต่างประเทศ ว่า ผมอยากจะไปรับตำแหน่ง ท่านบอกเอาสิ แต่ให้ไปขอป๋าเอง ผมก็กะลิ้มกะเหลี่ยไปขอ "ป๋าเปรม" ท่านร้อง "ฮื้อ—แล้วเราคิดว่างานเอดีบี กับงานป๋าเนี่ย งานไหนสำคัญต่อประเทศชาติ และประชาชนไทยมากกว่ากัน" เจออย่างนี้เราจะตอบยังไง เราก็ครับ ถ้างั้นผมไม่ไป ก็เลยต้องอยู่ต่อ" นั่นทำให้ 8 ปี 5 เดือนที่ "ดร.
โกร่ง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ดร. โกร่งคือคนที่มักจะแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างตรงไปตรงมา กล้าวิพากษ์วิจารณ์ในทางสร้างสรรค์ ทั้งยังพร้อมรับฟังและแบ่งปันความคิดเห็นที่แตกต่าง "แม้กระทั่งยามพูดคุยกัน จิบเบียร์คุยกันถึงเรื่องราวอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับชีวิตของคนไทยในยุคสมัยนั้น ก็จะจำเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของ ดร. โกร่งได้อย่างดี ถกแถลงกันดุเดือดได้ทั้งคืน ไม่โกรธกัน วันรุ่งขึ้นเจอกันอีกก็จะลืมสิ่งที่ทะเลาะขัดแย้งกัน เพราะอย่างน้อยที่สุดเราเห็นตรงกันครับว่า ประเทศชาติจำเป็นต้องมีความคิดที่หลากหลาย "แต่ก็ยังไม่มีนายกฯ คนไหนที่พอ ดร. โกร่งออกมาวิจารณ์นโยบายของตนเอง ที่จะมองว่า ดร. โกร่งมีเจตนาร้ายหรือว่ามีผลประโยชน์แอบแฝง เพราะว่า ดร. โกร่งนั้นระวังตัวมาก ในเรื่องที่จะถูกลากเข้าไปอยู่ในผลประโยชน์ทางการเมืองใด ๆ เพราะนี่คือคุณสมบัติสำคัญของความน่าเชื่อถือของความเป็นนักวิชาการ" โดยเฉพาะปี พ. 2527 ดร. โกร่งมีบทบาทสำคัญต่อนโยบายลดค่าเงินบาทของประเทศไทย ในสมัยนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ "การลดค่าเงินบาทในยุคสมัยนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางการเมืองมาก ไม่มีใครอยากจะพูดถึงลดค่าเงินบาทเลย เพราะว่าในแง่การเมืองแล้ว การลดค่าเงินบาทหมายถึงว่าเรากำลังด้อยค่าของเราเองเมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลอื่น ในแง่การเมืองจะมองว่าเป็นเรื่องเสียหายมากที่จะต้องหลีกเลี่ยงทุกวิถีทาง แต่ว่า ดร.
การเมือง 07 พ. ย. 2564 เวลา 16:51 น. 19. 1k อาลัย ดร. โกร่ง หรือ ดร. วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกฯ และรมว. คลัง จากไปอย่าสงบด้วยโรคมะเร็ง ในวัย 78 ปี เฟสบุ๊คนาย พิชัย นริพทะพันธุ์ Pichai Naripthaphan อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความ ขอแสดงความเสียใจอย่างสูงจากการถึงอนิจกรรมของอาจารย์โกร่ง ดร. วีรพงษ์ รามางกูร ท่านกรุณาเป็นทั้งอาจารย์ และ เป็นทั้ง mentor ของผมมาโดยตลอด ผมขอให้อาจารย์ผู้เป็นที่รักและเคารพของผมไปสู่สุคติในสัมปรายภพ หากชาติหน้ามีจริง ขอให้ได้เป็นอาจารย์และศิษย์กันอีกครับ ผมระลึกถึงความกรุณาของอาจารย์เสมอ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร. วีรพงษ์ รามางกูร หรือ อาจารย์โกร่ง อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง ในวัย 78 ปี เมื่อเวลา 15. 18 น. ของวันที่ 7 พ. 2564 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ โดยญาติกำหนดพิธีบำพ็ญกุศลที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ด้านเฟซบุคของ สภาธุรกิจไทย-ลาว ขึ้นโพสท์ ขอไว้อาลัยต่อการจากไปอย่างสงบของ ดร. วีรพงษ์ รามางกูร ผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อความสัมพันธ์ไทย-ลาว วิรัตน์ แสงทองคำ นักเขียนชื่อดัง เขียนถึงดร.
วีรพงษ์เมื่อปี 2553 ระบุว่า บิดาของเขา เป็นคนอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขงติดต่อชายแดน ลาว ซึ่งญาติหลายคนของเขากลายเป็นพลเมืองลาวมาตั้งแต่รุ่นปู่ของเขา เขาเองก็เคยมีโอกาส รับใช้ประเทศลาวในฐานะที่ปรึกษาอาวุโสด้านวางแผนเศรษฐกิจ อยู่ 6 เดือนในปี 2533 ประวัติของ ดร. โกร่ง เป็นกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด มหาชน เคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล. อ. เปรม ติณสูลานนท์ ก่อนเป็นรมว. คลัง ในรัฐบาลพล. ชาติชาย ชุณหะวัณ อีกทั้งเป็นรมช. คลัง ในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน จากนั้นเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพล. ชวลิต ยงใจยุทธ ก่อนเป็นที่ปรึกษาของทีมเศรษฐกิจรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร และประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจในรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ต่อมาในเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ปี 2554 ดร. โกร่ง วีรพงษ์ รามางกูร รับตำแหน่งจากคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ น. ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ. ) ซึ่งมีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายท่าน โดยทำหน้าที่สร้างความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติกลับคืนมายังประเทศไทย และวางแผนการลงทุนระบบน้ำทั้งหมด โดยยังเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช. )