ด้านสถานภาพส่วนตัวของนักเรียน ขนาดของครอบครัว การศึกษาสูงสุดของคนในครอบครัวและจำนวนพี่น้องร่วมบิดามารดา 2. ด้านสถานภาพทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัว มีตัวแปรที่สำคัญคือ รายได้ของครอบครัว ระดับการศึกษาของบิดามารดาและปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย 3. ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียนสายสามัญเมื่อเรียนจบส่วนใหญ่ก็คิดที่อยากเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาทั้งนั้นแต่นักเรียนสาอาชีพบางคนก็อยากเรียนต่อ ปวส. แต่บางคนก็อาจจะอยากเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา จากการศึกษาความคาดหวังและโอกาสทางการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา พบว่า ผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและได้ต่อระดับอุดมศึกษามีร้อยละ 85.
9 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 1 และ 2 แตกต่างกันอย่างไร การสมัคสอบ 9 วิชาสามัญน้อง ๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องสมัครสอบในทุกวิชา สามารถเลือกได้ว่าจะสอบวิชาไหนบ้างมาดูกันเลย วิชาสามัญ 9 วิชา หรือที่ทุกคนมักจะเรียกได้ว่า 9 วิชาสามัญ เป็นข้อสอบกลางของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. ที่มีการจัดสอบทั้งหมด 9 วิชาด้วยกัน ได้แก่ ภาษาไทย สังคมศึกษาฯ ภาษาอังกฤษ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา วิทยาศาสตร์ทั่วไป คณิตศาสตร์ 1 และคณิตศาสตร์ 2 ซึ่งเป็นการสอบเพื่อนำคะแนนมายื่นสมัครเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยจะมีการจัดสอบปีละ 1 ครั้งเท่านั้น 9 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 1 และ 2 แตกต่างกันอย่างไร? ทั้งนี้น้อง ๆ ที่สามารถสมัครสอบได้นั้นจะ ต้องเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม. 6 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า หรือจบการศึกษาระดับชั้น ม. 6 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้น้อง ๆ ที่เรียนทางสายอาชีวศึกษา (ปวช. ) หรือเรียน กศน.
เลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่เลือกเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย หลังที่เรียนจบ ปวช. 3 ปี ก็สามารถสอบเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้เลย โดยจะใช้เวลาในการเรียนทั้งหมด 4 ปีเหมือนกับน้อง ๆ ที่เลือกเรียนสายสามัญ ม. 4-ม. 6 มานั่นเอง (แต่น้อง ๆ จะต้องเข้าไปดูรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครให้ดีด้วยนะ เพราะในบางมหาวิทยาลัยก็เปิดรับสมัครเฉพาะบุคคลที่จบชั้น ม. 6 มาเท่านั้น รวมถึงเกรดเฉลี่ยสะสมด้วยที่ในแต่ละมหาวิทยาลัยมีการกำหนดเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป) อ่านเพิ่มเติม: 6 สาขาวิชายอดฮิต ที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรี สำหรับเด็กที่เรียนจบ ปวช. ** แต่ทั้งนี้การเลือกเรียนไม่ว่าจะเป็นสาอาชีพหรือสาสามัญ ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของน้อง ๆ ด้วยว่า มีความชอบในการเรียนแบบไหนมากกว่ากัน ที่สำคัญน้อง ๆ จะต้องค้นหาตัวเองให้เจอว่าชอบการเรียนแบบไหน และก็ไม่ควรที่จะเลือกเรียนตามแบบเพื่อน ๆ นะ ควรเลือกในแบบที่ตนเองชอบและทำได้จะดีกว่า เพราะมันจะทำให้การเรียนของเรามีความสุขนะจ๊ะ บทความที่น่าสนใจ 5 ข้อดี การเลือกเรียนในสายอาชีวศึกษา ที่ใครหลายๆ คนอาจจะเคยไม่รู้ เด็กอาชีวะเตรียมเฮได้เลย! 6 วิทยาลัยเทคนิค เปิดสอนหลักสูตรช่างอากาศยาน ระดับ ปวส.
4-ม.
ความแตกต่างหลักสูตร 4 ปี และ 5 ปี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ – ระวังเลือกพลาด!! มีอยู่จริง! 10 วิชาแปลกน่าเรียน ที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยไทย
น้องๆที่กำลังจะขึ้นม. ปลายอาจจะสับสนว่าตัวเองนั้นเหมาะกับการเรียนสายไหนดี สายวิทย์ก็น่าสน สายศิลป์ก็น่าเรียน ก่อนที่น้องๆจะเลือกสาย พี่อยากให้น้องๆอ่านข้อมูลกันก่อนนะครับ เพื่อที่น้องๆจะได้นำไปวิเคราะห์ว่าตัวเองชอบเรียนอะไร อยากเรียนคณะไหน อยากเป็นอะไร เพราะข้อมูลเหล่านี้จะมีผลต่อการตัดสินใจของน้องๆว่าจะเลือกเรียนแผนไหนนั่นเอง เรียนสายไหนดี พี่จะแบ่งแผนการเรียนออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ นั่นก็คือ สายวิทย์-คณิต สายศิลป์-คำนวณ และสายศิลป์-ภาษา ตามที่น้องๆหลายคนรู้จักกันดี ซึ่งหลังๆน้องๆอาจจะได้ยินสายศิลป์-สังคม ศิลป์-ธุรกิจ ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนว่ามีหรือไม่ สายวิทย์ – คณิต: สายวิทย์ – คณิตเรียนอะไรบ้าง? สายนี้จะค่อนข้างเรียนหนักกว่าสายศิลป์ทีเดียวนะครับ เพราะมีทั้งวิชาวิทยาศาสต์ที่รวมวิชาฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา แน่นอนว่าจะต้องลงรายละเอียดเนื้อหาที่ลึกกว่าตอนม. ต้น เพราะต้องมีการทำการทดลอง ทำโครงงาน การวิเคราะห์ผลต่างๆ และอีกวิชาซึ่งก็คือคณิตศาสตร์ที่มีเนื้อหาเข้มข้นมากขึ้น ส่วนวิชาอื่นๆได้แก่สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ นั้นเรียนปกติแต่ไม่สัดส่วนไม่เยอะเท่าวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ศิลป์ – คำนวณ: สายศิลป์ – คำนวณเรียนอะไรบ้าง?
การเรียนสายสามัญ คือ การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระ และสาระเพิ่มเติม เช่น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว เป็นต้น โดยการจัดการศึกษาสายสามัญ แบ่งออกเป็น ระดับประถมศึกษาตอนต้น ระดับประถมศึกษาตอนปลาย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถทุกด้าน ตามลำดับขั้นและหลักสูตรของสถานศึกษา และหลักสูตรของกระทรวงศึกษากำหนดไว้ ว่าแต่ละระดับควรพัฒนาด้านใดบ้าง และเพิ่มเติมความรู้ ความสามารถในด้านใด
เส้นทางที่ 2 เรียนต่อสายอาชีพ น้อง ๆ ที่เลือกเรียนสายอาชีพ กล่าวคือ เมื่อเรียนจบ ม. 3 ก็เลือกเรียนสายอาชีวศึกษาต่อในระดับ ปวช. 3 ปี (สายบัญชี) และเลือกไปเรียนต่อ ปวส. 2 ปี (สายบัญชี) หรือ สอบเข้ามหาวิทยาลัย (คณะ/สาขาวิชาบัญชี) โดยเส้นทางที่ 2 นี้ เหมาะกับน้อง ๆ ที่รู้ว่าอนาคตตนเองอยากเป็นนักบัญชี ซึ่งหลังจากที่น้อง ๆ เรียนจบในระดับชั้น ม. 3 หรือ ม. ต้น ก็สามารถเลือกเรียนต่อในสายอาชีพ ปวช. ได้ทันทีเลย สำหรับการเรียนสายอาชีพนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นการเรียนรู้เฉพาะด้านหรือเฉพาะสาขาที่เราเลือกเรียน เพื่อให้สามารถจบออกไปทำงานได้ทันที ถือได้ว่าเป็นข้อได้เปรียบสำหรับน้อง ๆ ที่เลือกเรียนสายอาชีพทางด้านบัญชีที่จะได้เรียนเจาะลึกด้านนี้ไปเลย จบ ปวช. เลือกเรียนต่อ ปวส. หลังจากที่น้อง ๆ เรียนจบในระดับ ปวช. 3 ปีแล้ว น้อง ๆ สามารถเลือกได้ว่าจะเรียนต่อ ปวส. หรือ มหาวิทยาลัย โดยที่การเรียนต่อ ปวส. ด้านบัญชีจะเวลาเรียนอีก 2 ปีด้วยกัน แล้วสามารถสอบเทียบโอนจาก ปวส. ไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยได้ โดยจะใช้เวลาในการเรียนอีก 2 ปีเช่นกัน เพื่อเอาวุฒิปริญญาตรี (หรือน้อง ๆ จะไม่เลือกเรียนต่อปริญญาตรีก็ได้จ๊ะ) จบ ปวช.
6 สายศิลป์ โรงเรียนรัฐบาล คณะนิติศาสตร์ คณะนิเทศศษสตร์/วารสารศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะรัฐศาสตร์/รัฐประศาสนศาสตร์ คณะศิลปกรรม จิตกรรม ประติมากรรม คณะเศรษฐศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศษสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ จบ ชั้นปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรืออากาศ โรงเรียนนายเรือ มหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชน มหาวิทยาลัยแพทย์พระมงกุฏเกล
กลุ่มที่เน้นการเรียนรู้ด้าน วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ (วิทย์-คณิต) 2. กลุ่มที่เน้นการเรียนรู้ด้าน ศิลปศาสตร์-คณิตศาสตร์ (ศิลป์-ค านวณ) 1. ส าเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่า 2. เป็นโสด ไม่จ ากัดอายุ 3. มีผลการเรียนตามที่แต่ละโรงเรียนก าหนด 2. ส าเนาทะเบียนบ้าน 3. ส าเนาระเบียนแสดงผลการเรียนหรือหลักฐานแสดงการจบการศึกษาชั้นม. 3 หรือเทียบเท่า(ปพ. 1)หรือ ใบรับรองการศึกษา(ปพ. 7) 4. ส าเนาการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) 1. โรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดของส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ. โรงเรียนมัธยมศึกษาภายใต้การก ากับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (เช่น โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์) 3. โรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยต่างๆ สังกัดส านักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 4. โรงเรียนเอกชนในสังกัดส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สถานที่ที่สามารถเหมาะสมกับการศึกษาต่อหลังจยการศึกษาสายต่างๆ จบ ม. 6 สายวิทย์ โรงเรียนรัฐบาล คณะเกษตรศาสตร์ คณะคุรุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ คณะจิตวิทยา คณะทันตแพทย์ศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร คณะเภสัชศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสร์ คณะสหเวชศาสตร์/เทคนิคแพทย์ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมการเกษตร จบ ม.