6-1. 6 เซนติเมตร ดอก ช่อ ออกเป็นกระจุกตามกิ่งเหนือรอยแผลใบ กลีบดอกสีขาวอมชมพูอ่อนถึงแดง กลีบดอกบาง มี 5 กลีบ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกตามซอกใบ ร่วงง่าย ดอกบานขยายออกราว 1. 2 เซนติเมตร มีก้านเรียว เล็ก และกาบเล็กๆที่ฐานกลีบด้านใน เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก สั้น สีเหลือง ก้านเกสรเชื่อมติดกันเป็น 3 กลุ่ม เกสรเพศเมีย มีก้านเกสรตัวเมียสีเขียวอ่อนมี 3 อัน มีรังไข่อยู่เหนือวงกลีบ กลีบเลี้ยง มี 5 กลีบ สีเขียวอ่อนปนแดง ผลแห้ง แตกได้ รูปไข่แกมกระสวย กว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร ผล มีนวลขาวติดตามผิว เมื่อแก่มีสีน้ำตาลหรือน้ำตาลดำ ผลแบบแคปซูล ปลายแหลม ผิวเรียบและแข็ง ขนาด กว้าง 0. 4-0. 6 เซนติเมตร ยาว 1. 3-1.
ติ้วขาว ชื่อสมุนไพร ติ้วขาว ชื่ออื่นๆ ตาว (สตูล) ติ้วส้ม (นครราชสีมา); ติ้วแดง ติ้วยาง ติ้วเลือด (เหนือ); แต้วหิน (ลำปาง) ติ้วเหลือง (เหนือ กลาง); ติ้วขน (กลาง และนครราชสีมา); เตา (เลย) ชื่อวิทยาศาสตร์ Cratoxylum formosum (Jacq. ) Benth. & Hook. f. ex Dyer ชื่อพ้อง Cratoxylum prunifolium Dyer, Elodes formosa ชื่อวงศ์ Hypericaceae ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ยืนต้น ขนาดกลาง สูง 3-12 เมตร อาจสูงได้ถึง 35 เมตร ผลัดใบ โคนต้นมีหนามเรือนยอดเป็นพุ่มกลม ลำต้น มีน้ำยางเหลือง กิ่งก้านเล็กเรียว กิ่งอ่อนมีขนนุ่มทั่วไป เปลือก สีน้ำตาลแดง แตกล่อนเป็นสะเก็ด เปลือกในสีน้ำตาลแกมเหลือง และมีน้ำยางสีเหลืองปนแดงซึมออกมา ใบ เดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปวงรีแกมไข่กลับ หรือรูปขอบขนาน กว้าง 2. 5-4. 5 เซนติเมตร ยาว 3-13 เซนติเมตร โคนใบสอบเรียบ ปลายใบมนหรือแหลม ขอบใบโค้งเรียบ ผิวใบมีขนละเอียดทั้งสองด้าน ใบอ่อนสีชมพูอ่อนถึงแดง เรียบ เป็นมันวาว ในฤดูหนาวจะเห็นเรือนพุ่มทั้งหมดเป็นสีชมพูอ่อน ใบแก่สีเขียวสด เรียบ เกลี้ยง ผิวใบด้านบนเป็นมัน ด้านล่างมีต่อมกระจายทั่วไปใบแก้สีแดงหรือสีแสด เส้นใบข้าง 7-10 คู่ ซึ่งจะโค้งจรดกันใกล้ขอบใบ ก้านใบยาว 0.
ไคร้ย้อย ไคร้ย้อย ชื่อวิทยาศาสตร์: Elaeocarpus grandifloru s Sm. วงศ์: Elaeocarpaceae น้ำ: มากถึงปานกลาง ดิน: ดินร่วนชุ่มชื้น อินทรียวัตถุสูง 9. ยางอินเดีย ยางอินเดีย ชื่อวิทยาศาสตร์: Ficus elastica Roxb. ex Hornem. วงศ์: Moraceae ดิน: ดินทุกประเภท ทนดินเค็ม 10. ซิลเวอร์โอ๊ก ซิลเวอร์โอ๊ก ชื่อวิทยาศาสตร์: Grevillea robusta วงศ์: Proteaceae ดิน: ดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ระบายน้ําดี ดินเป็นกรดอ่อนๆ ถึงกลาง บ้านและสวน ฉบับที่ 540 (สิงหาคม 2564) อ่านเพิ่มเติม และ สั่งซื้อได้ที่นี่
ต้นแต้ว เนื้อไม้ ใช้ประโยชน์ในการทำเสาเข็ม เผาถ่านและทำเชื้อฟืน แต้ว ชื่ออื่นๆ: แต้วคา (ยะลา), ต้าว (นราธิวาส) ต้นกำเนิด: เอเชียเขตร้อน ชื่อสามัญ: Taeo ชื่อวิทยาศาสตร์: Cratoxylum maingayi Dyer. ชื่อวงศ์: HYPERICACEAE ลักษณะของแต้ว ต้น เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้น สูง 20 ม. หรืออาจจะสูงได้ถึง 35 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มทรงสูงเปลือกสีน้ำตาลเทาคล้ำ แตกสะเก็ด เปลือกชั้นในสีน้ำตาล มียางสีน้ำตาลแกมเหลืองซึมออกมาเป็นเม็ด ใบ ใบมีสีเขียว เป็นมัน ออกเป็นคู่ ๆ ตรงข้ามกัน รูปรีถึงรูปขอบขนาน กว้าง 5-7 ซม. ยาว10-15 ซม. ผิวใบเกลี้ยง ปลายใบเป็นติ่งแหลมถึงเรียวแหลม ดอก มีกลีบดอก 5 กลีบ สีชมพู กลีบรองดอกหนาเป็นรูปช้อนสีม่วงคล้ำ กลีบดอกบางเป็นสีขาวหรือสีชมพูเรื่อ ๆ เกสรผู้มีมากออกเป็นกระจุกอยู่กลางกลีบดอก ผล รูปกระสวย กว้างประมาณ 5 มม. ยาวประมาณ 1. 5 ซม. ต้นแต้ว เรือนยอดเป็นพุ่มทรงสูง การขยายพันธุ์ของแต้ว ใช้เมล็ด/การเพาะเมล็ด ธาตุอาหารหลักที่แต้วต้องการ ประโยชน์ของแต้ว เนื้อไม้ ใช้ประโยชน์ในการทำเสาเข็ม เผาถ่านและทำเชื้อฟืน เปลือก ใช้ทำสีย้อมผ้า ใบอ่อน รับประทานได้ มีรสเปรี้ยว ดอกแต้ว ดอกสีชมพู กลีบรองดอกหนาเป็นรูปช้อนสีม่วงคล้ำ สรรพคุณทางยาของแต้ว คุณค่าทางโภชนาการของแต้ว การแปรรูปของแต้ว แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ:
ขี้เหล็กเลือด ชื่ออื่นๆ: ขี้เหล็กเลือด, ขื้เหล็กคันชั่ง, ขี้เหล็กป่า, ขี้เหล็กตาชี, ขีเหล็กแดง, ขี้เหล็กยายชี, บี้ตะขะ, ขี้ แคป่า แคนา แคป่า แคนา ชื่อวิทยาศาสตร์ Dolichandrone Spathacea ลักษณะ ไม้ต้นสูง ใบประกอบยาว 12–35 ซม.