ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ศาสนาฮินดูเป็นศาสนาเก่าแก่ของชาวอารยัน กำเนิดขึ้นที่ประเทศอินเดียก่อนศาสนาอื่นๆ โดยมีพราหมณ์เป็นผู้สั่งสอนและประกอบพิธีกรรมจึงเรียกกันว่าเป็นศาสนาของพราหมณ์ หรือศาสนาพราหมณ์ ศาสนาฮินดูเป็นศาสนาประเภทเทวนิยมคือเคารพยอมรับเรื่องเทพเจ้าเป็นสิ่งสูงสุด โดยเทพเจ้า 3 องค์ที่ชาวฮินดูให้ความเคารพสูงสุดอัน ได้แก่ พระพรหม พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ และ พระอิศวร หรือพระศิวะ ประวัติความเป็นมา ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ทั้งสองศาสนามีวิวัฒนาการสืบต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นศาสนาเดียวกันโดยศาสนาพราหมณ์เกิดขึ้นก่อนประมาณ 1000 ปี ก่อน พ. ศ. ต่อมาความเชื่อได้เริ่มเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นศาสนาฮินดูในปัจจุบัน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ได้ชื่อว่าเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แต่ไม่สามารถสืบค้นชื่อของศาสดาผู้ก่อตั้งหรือ เผยแผ่ศาสนาได้ เป็นศาสนาที่นับถือพระเจ้าหลายองค์ แต่องค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือพระพรหม และคัมภีร์หลักคำสอนที่สำคัญคือคัมภีร์พระเวท ศาสนาพราหมณ์เกิดจากความเชื่อดังเดิมของชนเผ่า อารยัน( Arayan) หรืออริยกะ เป็นชนเผ่าโบราณที่อพยพมาจากตอนกลางของทวีปเอเชียและเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ เมื่อประมาณ 1000 ปี ก่อน พ.
ปรมาตมัน หมายถึง สิ่งที่ยิ่งใหญ่ อันเป็นที่รวมของทุกสิ่งทุกอย่างในสากลโลก ได้แก่ "พรหม" ปรมาตมันกับพรหมจึงเป็นสิ่งเดียวกัน ซึ่งมีลักษณะดังนี้ 2. 1 เกิดขึ้นเอง 2. 2 เป็นนามธรรม สิงสถิตอยู่ในสิ่งทั้งหลาย และเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา 2. 3 เป็นศูนย์รวมแห่งวิญญาณทั้งปวง 2. 4 สรรพสิ่งล้วนแยกออกมาจากพรหม 2. 5 เป็นตัวความจริง (สัจธรรม) สิ่งเดียว 2. 6 เป็นผู้ประทานญาณ ความคิด และความสันติ 2. 7 เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ในสภาพเดิมตลอดกาล วิญญาณทั้งหมดเป็นส่วนที่แยกออกมาจากปรมาตมัน วิญญาณย่อยเหล่านี้เมื่อแยกออกมาแล้ว ก็เข้าจุติในชีวิตรูปแบบต่างๆ เช่น เทวดา มนุษย์ สัตว์ และพืช มีสภาพดีบ้าง เลวบ้าง ตามแต่พรหมจะลิขิต 3. โมกษะ ถือว่าเป็นหลักความดีสูงสุด ดังคำสอนของศาสนาฮินดูสอนว่า "ผู้ใดรู้แจ้งในอาตมันของตนว่าเป็นหลักอาตมันของโลกพรหมแล้ว ผู้นั้นย่อมพ้นจากสังสาระการเวียนว่าย ตาย เกิด และจะไม่ปฏิสนธิอีก" นอกจากนี้ชาวอินเดียจะมีการแบ่งผู้คนออกเป็นพวกๆหรือวรรณะตามความเชื่อจากศาสนาฮินดู คือ นอกจากนี้ชาวอินเดียจะมีการแบ่งผู้คนออกเป็นพวกๆหรือวรรณะตามความเชื่อจากศาสนาฮินดู คือ 1. วรรณะพราหมณ์เป็นวรรณะสูงสุด ได้แก่พวกผู้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ 2.
เมื่อครั้งอดีตชุมชนแห่งนี้มีการแสดงละครกันอย่างกว้างขวาง จนถึงครั้งสมัยที่เริ่มมีสถานีวิทยุโทรทัศน์ ไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหม ชุมชนแห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนเป็นการแสดงลิเกอันเนื่องมาจากว่าในช่วงเวลานั้นทุกๆที่ล้วนแล้วแต่ก็มีคณะแสดงละครทั้งสิ้น ชุมชนนี้จึงพลิกตำนานบ้านได้เริ่มเล่นลิเกตามคำแนะนำคุณจำนง รังสิกุลไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหมจนเป็นที่รู้จักของคนสมัยนั้น หลังจากนั้นมาชุมชนนแห่งนี้ก็กลายเป็นแหล่งรวมการแสดงต่างๆมากมาย มีผู้คนจากทั่วสารทิศที่มีความสามารถด้านการละครต่างๆเข้ามาตั้งรกรากอยู่จนกลายเป็นแห่งการแสดงประเภทต่างๆที่ใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย
สุโขทัย จำนวน 59 บาท ในวันที่ 25 มค 2565 ตามสลิปข้างล่างโมทนาบุญร่วมกันน่ะครับและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้สละปัจจัยทำบุญในครั้งนี้ สาธุ และขอท้าวจตุมหาราชทั้ง 4 และลุงพุฒิพญายมราชร่วมโมทนาบุญและช่วยเป็นสักขีพยานในการร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยเถิด ไฟล์ที่แนบมา: แชร์หน้านี้
พิธีศราทธ์ ได้แก่ พิธีของผู้มีศรัทธาคือมีใจเชื่อมั่นเป็นการทำบุญอุทิศให้แก่บิดา มารดา หรือบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วในเดือน 10 ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ ถึงวันแรม 15 ค่ำ การทำบุญอุทิศนั้น เรียกอีกอย่างว่า ทำบิณฑะ 4. บูชาเทวดา การทำพิธีบูชานี้ต่างกันไปตามวรรณะ ถ้าวรรณะสูงพอจะกำหนดลงได้ เช่น สวดมนต์ภาวนา อาบน้ำชำระกายและสังเวยคงคาทุกวัน พิธีสมโภชน์ถือศีลในวันศักดิ์สิทธิ์และไปนมัสการบำเพ็ญกุศลในเทวาลัย ถ้าวรรณะต่ำก็มีพิธีผิดแผกแตกต่างกันออกไป
สร้างศาลาปฏิบัติธรรม ณ. วัดศรีเสวตวนาราม ต. ธานี อ. เมือง จ. สุโขทัย | พลังจิต kittikorn เป็นที่รู้จักกันดี วันที่สมัครสมาชิก: 21 กรกฎาคม 2005 โพสต์: 1, 919 กระทู้เรื่องเด่น: 1 ค่าพลัง: +2, 605 อนุโมทนา x 2 ดูรายการ Fourthman 15 พฤศจิกายน 2005 959 +4, 146 ผมและคณะร่วมทำบุญ สร้างศาลาธรรมสังเวช ณ. สุโขทัย จำนวน 100 บาท โอนวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เวลา 18:57 น อานิสงค์การร่วมทำบุญ จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและคณะเป็นผู้ที่ ๑. ย่อมเป็นผู้รู้คุณของพระรัตนตรัยทำให้มีศรัทธามั่นคง ๒. เป็นผู้มีความเคารพมีสัมมาคารวะ ๓. เป็นผู้มีดวงตาสดใสสวยงามมองได้ไกลดวงตาบริสุทธิ์บริบูรณ์ ๔. ทำให้เป็นผู้มีทิพยจักษุ (ตาทิพย์) อภิญญาสมาบัติ ๕. มีผิวพรรณผ่องใสมีจิตใจสดชื่นเบิกบาน ๖. มีรัศมีกายสว่างไสวมีสติสัมปชัญญะไม่ประมาทในชีวิต ๗. ทำให้มีปัญญาเฉลียวฉลาดมีปฎิภาณว่องไวแตกฉานในสรรพวิชชาทั้งทางโลกและทางธรรม ๘. ย่อมไม่ไปเกิดในทุคติ ๙. ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย ๑๐. มีความสะดวก คล่องตัว เดินทางสะดวก เจริญสมาธิกรรมฐานก้าวหน้า ๑๑. มั่งมีศรีสุข มีโชคลาภ ๑๒. มีที่อยู่อาศัยมั่นคงกว้างขวาง สะดวกสะบาย ปลอดภัย ศิษย์รุ่นจิ๋ว นิพพานัง ปัจจโยโหตุ 13 มกราคม 2017 27, 122 5 +35, 411 Super Bank จงทำดีอย่าทำชั่ว 2 ตุลาคม 2017 8, 257 +6, 942 tleelapo 21 ตุลาคม 2006 618 +1, 836 ข้าพเจ้า ธนจักร ลีลาพรชัย ร่วมบุญสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ณ.
* ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 17 กันยายน 2558 หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 1. ชื่อหลักสูตร ภาษาไทย: หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ภาษาอังกฤษ: Bachelor of Laws Program 2. ชื่อปริญญา ภาษาไทย: ชื่อเต็ม นิติศาสตรบัณฑิต: ชื่อย่อ น. บ. ภาษาอังกฤษ: ชื่อเต็ม Bachelor of Laws: ชื่อย่อ LL. B. 3. หน่วยงานที่รับผิดชอบ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 4. ปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร 4.
2544 เริ่มมีการผลิตบัณฑิต " สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ " ในระดับปริญญาบัณฑิตขึ้นที่ สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในระยะแรกได้รับความช่วยเหลือจาก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร. วรรณา มุสิกเป็นผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ ช่วยราชการจากคณะวิทยาศาสตร์ รองศาสตราจารย์รสิตา โอสถานนท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ช่วยราชการจากคณะวิทยาศาสตร์ อาจารย์ดนัย ตันเกิดมงคล หัวหน้าสาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ ช่วยราชการจากคณะวิทยาศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประพิณพันธ์ ศรีสวรรค์ หัวหน้าสาขาวิชาสารสนเทศทางสุขภาพ ช่วยราชการจากคณะวิทยาศาสตร์ พ. 2555 สภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้อนุมัติจัดตั้ง"คณะทัศนมาตรศาสตร์"อย่างเป็นทางการเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2555 โดยแต่งตั้ง อาจารย์ ดร.