ทำงานฝีมือ DIY การทำงานฝีมือจำพวกเย็บ ปัก ถัก ร้อย งาน DIY หรืองานประดิฐ์ประดอยต่างๆ ถือว่าเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิอย่างสูงเลยล่ะค่ะ เพราะกว่าที่เราจะลงมือทำออกมาได้สำเร็จนั้น ก็จะต้องมีขั้นตอนที่อาศัยความละเอียดอ่อน ต้องใช้ทั้งความตั้งใจ สมาธิ และยังช่วยฝึกให้เราเป็นคนใจเย็นขึ้นด้วยละค่ะ 5. ปลูกต้นไม้ ไม่ต้องสวยเหมือนน้องญาญ่าก็ปลูกต้นไม้ได้ค่ะ เพราะการปลูกต้นไม้นอกจากจะช่วยฝึกสมาธิแล้วยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บริเวณบ้าน โต๊ะทำงาน หรือห้องนอน ให้มีบรรยากาศที่น่าอยู่ สดชื่น ผ่อนคลาย และสีเขียวของธรรมชาติยังช่วยบำบัดจิตใจเราได้นั่นเองค่ะ 6. เล่นโยคะ หัวใจของการฝึกโยคะก็คือ การฝึกสมาธิควบคู่กับลมหายใจไปพร้อมกับการเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะในขณะที่เรามีสมาธิอยู่ในท่าอาสนะของโยคะ รับรู้ลมหายใจเข้าและออก รับรู้ร่างกาย เราก็จะมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ ซึ่งการฝึกโยคะนอกจากจะการฝึกสมาธิที่ 1 แล้ว ยังช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีทั้งภายในและภายนอกอีกด้วยค่ะ 7. นวดแผนไทย ใครที่มีสมาธิสั้น อารมณ์ขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย แบบนี้แล้วละก็ ลองไปเข้าคอรส์นวดแผนไทยดูค่ะ เพราะการนวดแผนไทยจะช่วยกระตุ้นเส้นประสาทในร่างกายที่ควบคุมระบบต่างๆ ซึ่งเมื่อเส้นประสาทเหล่านั้นทำงานผิดปกติอาจทำให้เกิดความเครียด เจ็บป่วยทางด้านร่างกาย และส่งต่ออารมณ์ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรนวดบำบัดเพื่อคลายเส้น ประสาทให้กลับมาเป็นปกตินั่นเองค่ะ เรียบเรียงข้อมูลโดย amp_ang
ระบายสีม้ายูนิคอร์น – ฝึกระบายสี เสริมจินตนาการ แบบฝึกหัดอนุบาล วาดรูประบายสี [#0043] ระบายสีม้ายูนิคอร์น Read more articles You Might Also Like
สมาธิสั้นเป็นปัญหาที่แพร่หลายในเด็ก เด็กจะสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งแค่ในระยะเวลาสั้นๆ แม้แต่ของเล่นชิ้นใหม่ หรือกิจกรรมใหม่ๆ เด็กก็จะให้ความสนใจเป็นเวลาไม่นาน ทำให้หลายๆ ครั้ง ลูกทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ เช่น ทำการบ้าน หรืออ่านหนังสือได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม อาการสมาธิสั้นอาจเกิดจากโรค Attention Deficit Hyperactivity Disorder หรือ ADHD แต่ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะวิตกว่าลูกเป็นโรคสมาธิสั้นหรือไม่นั้น ลองใช้ 10 วิธีนี้เพิ่มสมาธิให้ลูก เพื่อสังเกตและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกกันดูนะคะ 1. สังเกตพฤติกรรมของลูก คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตพฤติกรรมลูกขณะเล่นของเล่น พูดคุย หรืออ่านหนังสือ สังเกตการแสดงออกและการใช้เวลากับสิ่งที่เขาสนใจ ว่าผิดปกติหรือไม่ 2. ปรับสภาพแวดล้อมที่รบกวนสมาธิของลูก เด็กๆ จะไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ หากต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งรบกวนตลอดเวลา ดังนั้น ควรให้ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ถ้าลูกกำลังทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ คุณไม่ควรเข้าไปชวนคุย คุยโทรศัพท์ หรือดูโทรทัศน์เสียงดังอยู่ใกล้ๆ มากเกินไป ในทางกลับกัน คุณสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกได้ เช่น หาเวลานั่งอ่านหนังสือ หรือทำงานเงียบๆ ให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้พฤติกรรมดังกล่าวตามได้ 3.
การทวนคำสั่งเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้เด็กจดจำ การออกคำสั่งให้เด็กทำอะไรคุณควรให้เขาทวนคำสั่งของคุณด้วยทุกครั้ง 6. คุณต้องดูว่าเด็กผิดปกติทางด้านสติปัญาหรือไม่ มีความบกพร่องเรื่องสติปัญญามากน้อยแค่ไหน เป็นโรคสมาธิสั้นหรือปล่าว เพราะถ้าเด็กเป็นกลุ่มพวกนี้เด็กจะไม่จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นาน ควรพาเด็กไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญอีกที สมาธิของเด็กจำเป็นต้องฝึกด้วยเหรอ? เด็กมีสมาธิกับเด็กที่ไม่มีสมาธิจะเห็นความแตกต่าง เวลามอบหมายให้ทำงานต่างๆเด็กที่มีสมาธิจะสามารถทำงานสำเร็จได้ เพราะเด็กมีสมาธิและมีความเชื่อมั้นมากกว่าเด็กที่ไม่มีสมาธิ การมีปฏิสัมพันธ์ของเด็กที่มีสมาธิจะดีกว่าเด็กที่ไม่มีสมาธิ เช่นเด็กที่นั่งหลังห้องเรียนจะเป็นเด็กที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ขาดสมาธิไม่อยากเข้าสังคมกับผู้อื่น อาจนำไปสู่ปัญหาทางสังคมตอนโตเป็นผู้ใหญ่ การฝึกสมาธิเด็กไม่ได้ทำเพียงชั่วข้ามคืน เป็นการฝึกการพัฒนาทางด้านอารมณ์ทางด้านร่างการของเด็ก เพื่อให้เรียนรู้และเข้ากับสังคมให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไป
สมาธิสั้น แก้ได้ด้วย 8 วิธี เดี๋ยวทำนู้นแป๊บๆ แล้วก็กลับมาทำนี่อีกหน่อย เป็นแบบนี้อยู่เป็นประจำ จนอาจจะเข้าข่ายสมาธิสั้นแบบนี้ ลองหันมาฝึกสมาธิด้วย 8 วิธีง่ายๆ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ 1. วาดรูป ระบายสี เรามักเคยได้ยินคำว่าศิลปะบำบัด เพราะในขณะที่เรากำลังจดจ่ออยู่กับการครีเอทลวดลาย ลายเส้น หรือสีสันที่ระบายอยู่ตรงหน้า นั่นทำให้เราได้ใช้จินตนาการ และเกิดมีสมาธิได้ดียิ่งขึ้น แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยถนัดการวาดรูประบายสี อาจจะเริ่มต้นง่ายๆจากการหาสมุดภาพระบายสี Coloring Book หรือแผ่นเฟรมระบายสีตามเลขมาลองทำดูก็ช่วยฝึกสมาธิได้ดีอยู่เหมือนกันค่ะ 2. อ่านหนังสือ การอ่านหนังสือถือว่าเป็นการฝึกสมาธิที่ดีอย่าง เพราะในช่วงเวลาที่เราอ่านหนังสือ เราจะจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือ เหมือนเราได้สงบนิ่งและใช้ความคิดและจินตานาการไปกับการอ่านหนังสือ ส่วนใครที่กลัวว่าจะเบื่อหรือไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ อาจจะลองตั้งเป้าเล็กๆไว้ก็ได้เช่น วันนี้จะอ่านให้ได้ 1 บท พอเริ่มทำได้ก็ค่อยๆขยับเป้าหมายขึ้นไปเรื่อยๆ แค่นั้นเองค่ะ 3. เล่นดนตรี สำหรับเพื่อนๆที่มีดนตรีในหัวใจ หรือใครที่กำลังอยากหัดเล่นดนตรีแล้วละก็ ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เริ่มลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่จะมาช่วยคลายแถมยังช่วยคลายเหงาได้อีก เพราะเวลาที่เราเล่นดนตรี เราจะมีสมาธิอยู่กับตัวโน๊ต อยู่เสียงเพลง นอกจากจะช่วยฝึกสมาธิแล้ว การเล่นดตรีอาจจะกลายเป็น 1 งานอดิเรกที่เพื่อนๆชื่นชอบก็ได้ค่ะ 4.
ลดเวลากับหน้าจอ การปล่อยให้ลูกเล่นเกมหรือดูโทรทัศน์นานๆ ทำให้ลูกขาดสมาธิได้ เพราะภาพที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คุณแม่ควรกำหนดระยะเวลาการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ให้ลูกอย่างเหมาะสม 4. กำหนดเป้าหมายให้ลูกน้อยอย่างชัดเจน ควรกำหนดเป้าหมายในการทำกิจกรรมแต่ละอย่างให้ลูก โดยให้ลูกรู้จักแบ่งเวลาให้ชัดเจน เช่น ทำตารางกำหนดเวลาเล่น เวลาทำการบ้าน ดูโทรทัศน์ และทำงานอดิเรกให้เหมาะสม และเมื่อลูกทำได้ตามเป้าหมาย คุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีให้คะแนน และสะสมคะแนนเพื่อแลกเป็นรางวัลได้ ลูกจะได้มีแรงกระตุ้นให้ทำตามเป้าหมายต่อไป 5. ให้ลูกรับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ ในบ้าน กำหนดหน้าที่ง่ายๆ ให้ลูกทำ เพื่อสร้างสมาธิให้กับลูก เช่น ให้ลูกช่วยทำแซนด์วิช ให้ลูกช่วยหยิบจาน หรือให้ลูกช่วยหยิบหนังสือตามตัวอักษรที่กำหนด เมื่อลูกทำหน้าที่เดิมได้ดีแล้ว ควรมีหน้าที่ใหม่ๆ มาลองให้เขาทำไปเรื่อยๆ ลูกจะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานใหม่ และเขาจะพยายามมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น 6. แบ่งงานให้ลูกน้อย บางครั้ง การทำงานให้เสร็จภายในครั้งเดียวก็เป็นเรื่องยากสำหรับเด็ก ดังนั้น คุณแม่ควรแบ่งงานของลูกให้น้อยลง เช่น ให้ทำโจทย์วิชาคณิตศาสตร์ 5 ข้อ แล้วให้พักก่อนค่อยกลับมาทำต่อ เพราะเมื่อลูกรู้สึกว่างานมีปริมาณน้อยลงแล้ว ลูกจะมีสมาธิและมีความละเอียดกับการทำงานมากขึ้น 7.
เด็กไม่มีสมาธิ ส่งผลให้มีปัญหากับตัวเด็กทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน ไม่ฟังพ่อแม่หรือครูเวลาพูดสั่งสอน สนใจสิ่งรอบข้างอื่นๆ มากกว่า มีวิธีง่ายๆ ที่ทำให้เด็กมีสมาธิมากขึ้น ศิลปะ และ ระบายสีภาพสามารถทำให้เด็กมีสมาธิมากขึ้น การระบายสี การวาดรูปน่ารักๆ จะช่วยให้เด็กมีความตั้งใจและอยากเรียนรู้ เพื่อทำให้สิ่งที่เขาทำนั้นสวยงามยิ่งขึ้น และสนุกกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ หารูปภาพสวยๆมาให้เขาดูและฝึกให้เขาจดจำสีสันของภาพ แล้วทดสอบให้เขาได้ตกแต่งสีสันของภาพด้วยการระบายสี ภาพระบายสี ตามจินตนาการของเขาเอง จะทำยังไงเมื่อเด็กไม่มีสมาธิเลย? 1. ทำให้เด็กสนใจสิ่งที่จะทำเท่านั้น ลดสิ่งต่างๆรอบข้างออก เช่น เสียงทีวี หรือ คนอื่นๆที่กระทำให้เกิดการกระตุ้นให้ลดลง 2. สังเกตุว่าเด็กสนใจของเล่นมากกว่าอย่างอื่นหรือไม่ ให้แยกแยะของเล่นว่าเหมาะสมกับอายุของเด็กหรือปล่าว ควรหาของเล่นที่ฝึกสมาธิมากกว่าของเล่นใส่ถ่านทั่วๆไป 3. ไม่ควรเน้นยำให้เด็กจนเกินไป เพราะเด็กอาจจะไม่ชอบสิ่งที่เน้นย้ำมากจนเด็กไม่อยากทำสิ่งนั้นไปเลยก็ได้ ควรแบ่งช่วงเวลาให้เด็กได้เล่นตามวัยของเขาเอง 4. การที่คุณกำลังสอนเด็กนั้นควรมองหน้าเขา และพยายามให้เขามองหน้าคุณด้วย เพราะเขาอาจไปส่นใจสิ่งอื่นมากกว่าที่จะฟังคุณ 5.
ชวนลูกออกกำลังกาย มีผลวิจัยออกมาว่า การออกกำลังกาย เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน เตะฟุตบอล และการเล่นกีฬาอื่นๆ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ลูกมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น เพราะลูกจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ 8. ให้ลูกฝึกลมหายใจ การหายใจมีผลต่อการทำงานของสมอง ดังนั้น คุณแม่ควรสอนวิธีการหายใจที่ถูกต้องให้ลูก โดยให้ลูกนอนราบบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท เช่น ในสวนหรือระเบียง หลังจากนั้น เอาของเล่นโปรดของลูกวางไว้บนท้องของเขา แล้วให้ลูกหายใจให้ท้องพองจนของเล่นอยู่สูงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ วิธีนี้จะทำให้ลูกรู้ว่า เมื่อเขาหายใจเข้า ท้องจะพองขึ้น และเมื่อหายใจออก ท้องจะแฟบลง เป็นการฝึกสมาธิที่ดีได้อย่างหนึ่ง 9. ทำกิจกรรมสนุกๆ กับลูกรัก หากิจกรรมสนุกๆ ทำร่วมกับลูก เมื่อกิจกรรมสนุก ลูกจะให้ความสนใจในการทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น เช่น ช่วยกันวาดรูประบายสี นอกจากจะทำให้ลูกมีสมาธิเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์น่ารักๆ ให้เกิดขึ้นในครอบครัวได้อีกด้วยค่ะ 10. พาลูกไปหาคุณหมอ หากทำตามทุกวิธีข้างต้นแล้ว ลูกยังไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งใดได้ คุณแม่ควรพาลูกไปพบจิตแพทย์ เพื่อวินิจฉัยว่าลูกเป็นโรคสมาธิสั้นหรือไม่ เพราะการพบแพทย์จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกได้อย่างถูกวิธี Panitnun W. 'แพม' ไม่มีลูกเป็นของตัวเอง แต่รักเด็กเป็นชีวิตจิตใจ ว่างไม่ได้ต้องหาคลิปเด็กมาดู ถ้าได้ดูคลิปเด็กก่อนนอนนี่คือจะฟินมาก และที่ชอบมากอีกอย่างคือ แซลมอน ความฝันคือ ถ้ามีเงินจะเปิดฟาร์มแซลมอน